ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค 6 อวสานหงสา (ภาคจบ)
ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ในปี พุทธศักราช 2135 ข้างหลังแพ้ “ศึกยุทธหัตถี” ข้างหงสาวดี “พระผู้เป็นเจ้านันทบุเรง” (จักรกฤษณ์ อำมะรัตน์) ทรงเสียใจที่จำต้องสูญเสียบุตรชาย ก็เลยมีกล่าวให้คลอกไฟเหล่าแม่ทัพนายกองที่ตามเสด็จ “พระมหาอุปราช” (นภัสแขน มิตรเอม) ให้ตายตกตามกัน ทั้งระบายพระความฉุนเฉียวไปที่ “พระสุวรรณกัลยาณี” (เกรซ มหาดำรงค์กุล) องค์รับรองรวมทั้งโอรสบุตรีถึงสวรรคตชีพ
ข้าง “สมเด็จพระกษัตริย์” (พันโท วันชนะ สวัสดี) นั้น มีความประสงค์จะนำกองทัพปราบหงสาวดีให้ราบคาบไม่ให้หลงเหลือเป็นศัตรู เมื่อมาได้รู้ข่าวสารการตายของพระพี่นางแล้วก็พระราชหลานก็ยิ่งเศร้า ก็เลยวินิจฉัยใจยกพลใหญ่ หมายเหยียบหงสาวดีให้ราบเป็นหนังกลอง ในขณะที่กำลังเดินทางมาถึงเมืองเมาะตะมะได้จับกุม “พระยาลอ” ผู้สำเร็จราชการแทน ที่ “พระผู้เป็นเจ้านันทบุเรง” ส่งให้มาดูแลเมือง ถูก “เม้ยมะนิก” (เต็มฟ้า กฤษณายุยงธ) ราชธิดาของ “ศรีสุธรรมราชา” เจ้าผู้ครองนครเมาะตะมะลอบฆ่าเพื่อแก้เผ็ดแทนพ่อ พร้อมสะสมชาวมอญเพื่อสมัครใจขอร่วมรบประเทศพม่ากับชาวอโยยา เว็บหนัง 037free
แต่ว่าครั้นเมื่อกองทัพของท่านเสด็จถึงหงสาวดีก็เจอแต่เพียงเศษซากของมหานครอันเคยยิ่งใหญ่ ด้วย “นัดหมายจินหน่อง” (นาวาอากาศโทควรเจต วัแก่ความสำราญ) ราชลูกพระผู้เป็นเจ้าโคนงอูได้วางอุบายชวนพระผู้เป็นเจ้านันทบุเรงพร้อมต้อนผู้คนแลสมบัติพัสถานศฤงคารของหงสาไปไว้ยังโคนงอูจนกระทั่งหมดเกลี้ยง
ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ตอนนั้นสมเด็จพระกษัตริย์ก็เลยทรงเคลื่อนพลตามขึ้นไปถึงเมืองโคนงอู มีพระราชบัญชาการให้ “เมงเยสีหตู” (นิรุตติ์ ศรีจรรยา) เจ้าผู้ครองนครส่งตัวพระผู้เป็นเจ้านันทบุเรงออกมามอบให้ ด้านนัดหมายจินหน่องมีความเห็นว่าพระผู้เป็นเจ้านันทบุเรงที่เชิญชวนมานั้นเป็นภัยชักศึกเข้าบ้านก็เลยหมายยืมมือสมเด็จพระพระราชาฆ่าพระผู้เป็นเจ้านันทบุเรงเสีย แต่ว่าเมื่อสมเด็จพระพระราชาได้มองดูมองเห็นพระผู้เป็นเจ้านันทบุเรงที่ทรงพิการเป็นที่น่าเวทนาก็ให้เศร้าใจใจ ระหว่างนั้น “เมงราชาญี” (รณ ฤทธิชัย) เจ้าผู้ครองเมืองยะไข่ได้แต่งกองทัพเป็นกองมิจฉาชีพตีลัดตัดเสบียงกรังอยุธยาไม่ให้ส่งข้าวน้ำขึ้นไปเลี้ยงกองทัพที่ล้อมเมืองหลวงโคนงอูอยู่ “สมเด็จพระเอกาทศรถยนต์” (พันเอก วินธัย สุวารี) ก็เลยแบ่งกองทัพลงมาหมายจะกำราบยะไข่ไม่ให้เป็นหอกข้างเเคร่ แต่ว่าทรงเสียท่าถูกเมงราชาญีจับตัวได้ พระราชมนูต้องอาสาสมัครนำกำลังลงมาแก้เอาสมเด็จพระเอกาทศรถยนต์คืนกลับ และก็เคลื่อนทัพกลับยังอยุธยา
ข้างข้างประเทศพม่านั้นได้มีขึ้นกษัตริย์ชาติทหารขึ้นมาแทนพระผู้เป็นเจ้าชนะสิบด้านมีชื่อว่า “พระผู้เป็นเจ้ายองยาน” ตามชื่อเมืองหลวงที่ดูแล พระผู้เป็นเจ้ายองยานทรงขยายแสนยานุภาพครอบคลุมดินแดนประเทศพม่าตอนบน ยึดครองหัวเมืองในเมืองไทยใหญ่ทั้งหลายแหล่ รวมทั้งทรงกรีฑากองทัพเข้าตีบ้านตีเมืองยองห้วยและก็เมืองแสนหวีซึ่งในขณะนั้นล้วนเป็นเมืองประเทศราชของอยุธยา เมื่อสมเด็จพระพระราชาทรงล่วงรู้ก็ทรงมีความคิดที่จะตัดไฟเสียแต่แรกเริ่มลมไม่ให้อธิราชศัตรูพลิกฟื้นขึ้นมาเป็นปรปักษ์แผ่นดินอยุธยาได้อีก สมเด็จพระพระราชาก็เลยได้เสด็จยกกองทัพไปตีอังวะ คราวนั้น “พระมหาเถรคันฉาย” (สรดงษ์ ชาตรี) แล้วก็ “พระอัครมเหสีมณีจันทร์” (ทักษอร ภักดิ์สุขรุ่งเรือง) ซึ่งกำลังทรงพระท้องก็ทูลขอให้งดเว้นซึ่งราชการการทำศึก สมเด็จพระพระราชาก็เลยทรงให้คำปฏิญาณว่าจะเสด็จไปทำสงครามคราวนี้เป็นหนสุดท้าย เมื่อเสด็จถึงเมืองจังหวัดเชียงใหม่ก็ยั้งกองทัพจัดกระบวนอยู่หนึ่งเดือน แล้วให้กองทัพสมเด็จพระเอกาทศรถยนต์เอาขึ้นไปทางเมืองฝาง ส่วนกองทัพหลวงชูไปทางเมืองหางเข้าค่ายหลวงประทับอยู่ที่ทุ่งแก้ว อยู่มาสมเด็จพระพระราชาทรงพระเจ็บป่วยก็เลยโปรดให้ข้าราชบริพารรีบชักชวนเสด็จพระเอกาทศรถยนต์มาเฝ้า เมื่อมาถึงได้ 3 วัน สมเด็จพระพระราชาก็เสด็จสิ้นพระชนม์เมื่อวันจันทร์ขึ้น 8 เย็น เดือน 6 ปีงูเล็ก ตรงกับวันที่ 25 ม.ย. พุทธศักราช 2148 สมเด็จพระเอกาทศรถยนต์ก็เลยได้เชิญศพสมเด็จพระพระราชากลับกรุงศรีอยุธยาราชเมือง
The legend of King Naresuan the Great, in the year 2135, after losing "The Battle of Iuthheete" on the side of Hongsawadee, "Lord Nantabureng" (Chakkrit Ammarat) regrets having to lose a son. So it was said to set fire to the generals who followed him. "Phra Maha Viceroy" (Naphat Khaem Mitrem) to die together both venting his fury to "Phra Suwankalayani" (Grace Mahadamrongkul) certifying body including sons and daughters to the death
On the side of "King" (Lieutenant Colonel Wanchana Sawadee), he wishes to lead the army to subdue Hongsawadee so that it does not remain as an enemy. When he came to know the news of the death of the elder sister and the royal grandson, he became even more sad. So he judged the great general. Meaning of stepping on Hongsawadee to make it look like a drum skin While arriving in Matama, he arrested Phraya Lo, the regent who was sent by Lord Nantaburen to take care of the city.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น