หนังMr. Harrigan Phone โทรศัพท์คนตาย (2022)
หนังMr.HarriganPhone บรรยากาศยังคง ทวีความหลอนขึ้นโดยตลอด..เมื่อย่างไปสู่ตุลาคม มากับหนังที่ผลิตขึ้นจากเรื่อง สั้นสุดน่ากลัวอีก ประเด็นของ "สตีเฟ่น คิง" ที่เอามาเปิดเผย เป็นหนังเรื่องยาวสุดหลอนใน "Mr. Harrigan's Phone โทรศัพท์ผู้ตาย" ด้ามจับเอาไว้น่าขนลุกมาเล่นกับเทคโนโลยีได้อย่างแยบคาย ผ่านมุมมอง เส้นเรื่องสยองขวัญที่ ผู้ชมควรต้องรู้สึกขนลุกซู่! เว็บหนัง 037free
Mr. HarriganPhone movie The atmosphere continues to grow increasingly haunting.. As we move towards October. Here comes another film based on Stephen King's terrifying short story that is revealed in "Mr. Harrigan's Phone," a haunting feature-length film in "Mr. Harrigan's Phone. ingeniously Through the perspective of a horror story line that the audience should have felt goosebumps! 037free movie website
Mr. Harrigan's Phone เล่าราวของ เคร็ก เด็กวัยรุ่นที่อาศัยอยู่ในเมืองเล็กๆแห่งหนึ่งได้มาเป็นมิตรกับ คุณฮาร์ริแกน มหาเศรษฐีสูงอายุผู้รักสันโดษ ทั้งสองเริ่มรู้สึกผูกพันกันโดยไม่คาดคิดเนื่องจากว่าต่างก็รักหนังสือและก็การอ่านเช่นเดียวกัน แม้กระนั้นเมื่อคุณฮาร์ริแกนเสียชีวิตลง เคร็กก็ได้ศึกษาและทำการค้นพบว่าอะไรบางอย่างกลับมิได้เลือนหายหรือตายตามไปด้วย เขาจำต้องฉงนใจที่ยังติดต่อกับสหายคนละวัยคนนี้ได้ผ่านโทรศัพท์ไอโฟนที่ฝังไปพร้อมศพของเขา เรื่องราวแนวก้าวพ้นวัยเหนือธรรมชาตินี้จะเปิดเผยให้มีความคิดเห็นว่าความสัมพันธ์บางสิ่งยังโยงใยถึงกันอยู่เป็นประจำ หนังMr.HarriganPhone
นี่เป็นผลงานปัจจุบันของผู้กำกับที่มักจะเจริญรุ่งเรืองกับงานแนวดราม่าเป็นประจำอย่าง "จอห์น ลี แฮนค็อก" ที่ดูเหมือนกับว่าคราวนี้น่าจะเป็นหนแรกที่เขาหันมาจับจับหนังดราม่าสยองขวัญดูบ้าง รวมทั้งเขาก็ได้ถือเอาการสั้นของเจ้าพ่อนิยายสยดสยอง สตีเฟ่น คิง มาละเลงรวมทั้งเขียนบทหนังประเด็นนี้ขึ้นมา โดยเป็นการจับโยงความสยดสยองกับเทคโนโลยีสมัยแรกๆได้อย่างน่าดึงดูด
This is the current work of director who has always thrived on drama, John Lee Hancock, which looks like this might be the first time he's turned up to
ก็แค่โชคร้ายไปสักนิดสักหน่อย เพราะ Mr. Harrigan's Phone เปลี่ยนเป็นหนังสยองขวัญที่เดินเรื่องราวไปแบบไร้ซึ่งเสน่ห์ที่จะต้องมี จังหวะทำนองของหนังเรียบเรียงไปแบบออกจะเนิบช้า มีลักษณะการประสมประสานของหนังแนว coming-of-age ที่สะท้อนกับสภาพสังคมของคนวัยหนุ่มสาวเจนวายที่เติบโตมาทันในตอนไอโฟนรุ่นแรกๆวางจำหน่าย
บทหนังและก็การเล่าเรื่องของ Mr. Harrigan's Phone ยังไม่ค่อยสัมผัสเข้าถึงหัวใจผู้ชมได้สักเท่าไหร่ ด้วยความช้าสำหรับในการเล่าไปสักนิดสักหน่อย หนังใช้เวลาผ่านไปเกือบจะครึ่งเรื่องกว่าจะเบาๆไปสู่เรื่องราว แต่ว่าเมื่อไปสู่พล็อตเรื่องและก็เส้นเรื่องหลักแล้ว หนังก็ยังไม่อาจจะขับเสน่ห์ออกมาก้าวหน้าสักเท่าไหร่อยู่ดี เพราะเหตุว่าราวกับหนังยังงงเต็กว่าจะไปในแนวทางรวมทั้งโทนที่จะเป็นหนังสยดสยองหรือหนังวัยรุ่น แม้ว่าจะยังคงบรรยากาศความหลอนไว้อยู่เสมอเวลา แม้กระนั้นยังไม่มีซึ่งความน่าสยอง
แน่ๆว่า "เจเดน มาร์เทลล์" ยังคงเป็นผู้แสดงชายหนุ่มเจนใหม่ของแวดวงที่มีฝีมือการแสดงที่จัดจ้าไม่น้อย แล้วก็เขาก็คือดาราหนังที่เล่นแนวดราม่าได้เหมาะกับมือทีเดียว หนังประเด็นนี้ก็นับได้ว่าเป็นอีกแนวทางที่ให้เขาได้ส่องแสง แต่ว่าก็รู้สึกโชคร้ายอีกที เนื่องจากหน้าที่ของเขาที่ได้รับในหนังหัวข้อนี้ก็เกือบจะไม่ได้ต่างอะไรไปจากหนังวัยไฮสคูลเรื่องก่อนๆที่เขาเคยถ่ายทอดเอาไว้สักเท่าไหร่
เปลี่ยนไปเป็นว่า เจเดน มาร์เทลล์ ยังค่อนข้างจะติดภาพติดอยู่แรกเตอร์ผู้เรียนแบบเดิมๆที่ภาพจำพวกนี้เปลี่ยนเป็นสิ่งที่เขากำลังบากบั่นจะสลัดรอยเปื้อนให้ออก แต่ว่าดูเหมือนจะติดแน่นหนากับตัวเขาไม่น้อย แม้ว่าจะมานะไต่ระดับการเจริญเติบโตในติดอยู่แรกเตอร์เท่าไรรวมทั้งตาม ก็พบว่าภาพของเขาก็ยังคงเป็นหนุ่มน้อยวัยรุ่นคนนั้นอยู่
หนังยังมีดาราอาวุโสรุ่นใหญ่ "โดนัลด์ ซูทเทอร์แลนด์" มาร่วมสมทบด้วย แน่ๆว่าเขาเป็นมือโปรที่ให้การแสดงในลักษณะน้อยแต่ว่ามากมาย การปรากฏตัวของเขาหนังก็นับได้ว่าเป็นหนึ่งส่วนประกอบที่เพิ่มความทรงอำนาจให้อยู่ไม่น้อย แม้กระนั้นหน้าที่ของเขาก็แทบมิได้สะดุดตาอะไรมากแค่ไหน มาเพียงแต่เสริมแล้วก็เป็นสารเริ่มของเรื่องราวทั้งปวงก็เท่านั้นเอง
บางครั้งอาจจะเรียกได้ว่า Mr. Harrigan's Phone ไม่ใช่หนังผีหวือหวาสิ้นเปลืองซีนแบบที่พวกเราเคยชินกับงานด้านการเขียนของ สตีเฟน คิง แม้กระนั้นหัวข้อนี้เป็นหนังสยองขวัญที่ปนเปกับเงื่อนดราม่าแล้วก็ทับซ้อนกับวิธีการเชิงจิตวิทยาเบาๆมีลูกเล่นผสมใส่กับความลับแล้วก็ความว้าเหว่ของความเป็นคน ลึกเข้าไปในแก่นความนึกคิดรวมทั้งจิตไร้สำนึกของคน ที่บางทีก็อาจจะลึกเหลือเกินหน่อย เหลือเกินกว่าที่ผู้ชมจะซึบดูดซึมแล้วก็รู้เรื่องได้ชัดเจน
ตกลงว่าโดยสรุปแล้ว Mr. Harrigan's Phone เป็นหนังดราม่าสะท้อนจิตใจหนุ่มน้อยคนหนึ่งมากยิ่งกว่าที่จะเป็นหนังสยองขวัญ เอาจริงเอาจังๆหนังก็มีท่วงทีในเรื่องราวอยู่ไม่น้อย เพียงค่อนข้างจะเป็นปัญหาที่ยากอยู่สักนิดสักหน่อย ถ้าต้องการจะติดต่อสื่อสารออกมาเป็นภาพและก็เสียงให้ผู้ชมได้รู้เรื่องรวมทั้งสัมผัสได้อย่างครบถ้วน สไตล์การเล่าเรื่องที่มองไม่มีข้อดีรวมทั้งแก่นที่ชัดแจ้ง กลับบ่อนทำลายหนังไปอย่างโชคร้าย เนื่องจากท้ายที่สุดแล้วชั่วโมงเศษๆที่นั่งมองมานั้น กลับไม่มีอะไรให้น่าจำได้เลย...
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น